FIDEI :: Chapter08
141018 by monmyjs
141018 by monmyjs
ลูกพีชสุกงอมกำลังถูกโยนเข้าไปในกองไฟที่ลุกโชน
ฝ่ามือหนาลูบผ่านหน้าอกต่ำลงมาจนถึงช่วงเอว แล้วจึงค่อย ๆ สอดมือเข้าไปลูบไล้ผิวขาวเนียนใต้สาบเสื้อโดยที่ริมฝีปากยังคงบดเบียดสู้กันอยู่ไม่ห่าง หน้าท้องหดเกร็งเมื่อสัมผัสถึงอุณหภูมิที่ต่างออกไปตรงช่วงหน้าท้อง และเคลื่อนสูงขึ้นจนเกือบถึงอก ฝ่ามือหนาลูบคลำ เคล้นคลึงไปทั่วทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องแบนราบหรือช่วงเอว
โฮซอกเคลื่อนใบหน้าลงมากดจูบลงตามผิวขาวเนียนที่โผล่พ้นออกมาจากการปลดกระดุมออกทีละเม็ด โฮซอกไล่ต่ำเป็นระยะตั้งแต่หน้าอกลงมาเรื่อย ๆ ทุกการกระทำเป็นไปอย่างไม่เร่งรีบ เพราะไม่ว่ายังไง… ค่ำคืนนี้มินฮยอกก็ไม่รอดไปจากเขา
เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางหลุดออกไปจากร่างกายบอบบางเป็นอย่างแรก และตามด้วยเสื้อเชิ้ตของเขาซึ่งได้รับการช่วยเหลือมาจากคนที่นอนบิดเร่าอยู่ใต้ร่างอีกที จึงเผยให้เห็นร่างกำยำที่มากไปด้วยกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน
นัยน์ตาฉ่ำวาวปรือขึ้นมองร่างหนา พลางลูบไล้ไปทั่วแผงอกแกร่งก่อนจะเผลอจิกปลายเล็บลงเข้าอย่างแรงเมื่อโฮซอกไล้ปลายลิ้นลงเชยชิมร่างกายของเขา
กลิ่นหอมหวานของลูกพีชจากร่างบางยิ่งยากจะหักห้ามไม่ให้ลงสัมผัสหนักหน่วง โฮซอกตักตวงความหอมหวานอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ฟาดฟันกันด้วยปลายลิ้นอย่างไม่มีใครยอมใคร
“อื้อ”
เสียงครางอื้ออึงดังขึ้นเมื่อถูกรุกรานบริเวณยอดอก ถูกดูดดุน สลับขมเม้มอย่างหนักตามความปรารถนาที่พุ่งทะยาน จนเผลอถลากายขึ้นเข้าหาสัมผัส สองมือที่เคยจิกลงกับฟูกที่นอนแปรเปลี่ยนมาขยุ้มกลุ่มผมสีเข้มของโฮซอกแทนเพื่อระบายความซ่านเสียวที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
เสียงครางหอบดังออกมาเรื่อย ๆ ยามร่างกายถูกความช่ำชองของโฮซอกเล่นงาน
ริมฝีปากร้อนนาบลงกับต้นคอขาว เจ้าของใบหน้าสวยเปิดรับสัมผัสอย่างเต็มใจ และต้องร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อโฮซอกขบเม้มจนเกิดร่องรอยรักสีกุหลาบ
ฟีโรโมนของโอเมก้าคือสิ่งที่ปลุกปั้นสัญชาติญาณดิบของอัลฟ่าให้เดือดพล่าน เฉกเช่นเดียวกับฟีโรโมนของอัลฟ่าที่ปั่นป่วนโอเมก้าจนสติแตกกระเจิง
โฮซอกยืดกายขึ้นมองดูผลงานของตัวเองอย่างพึงพอใจ แล้วจัดการปลดเปลื้องปราการด่านสุดท้ายออกจากขาเรียว โฮซอกจับขาเรียวยกขึ้นแล้วฝังใบหน้าลงจูบจนอีกคนร้องครางระงม
“อ๊า”
ร่างบางบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน ปลายนิ้วจิกลงกับลาดไหล่หนาอย่างต้องการระบายความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ และในที่สุดร่างกายของมินฮยอกก็ราวกับถูกผลักลงมาจากหน้าผาอันสูงชัน ร่างกายกระตุกเกร็งพร้อมปลดปล่อยความอัดอั้นออกมาจนหมด มินฮยอกครางหอบ อ่อนระทวยไปทั้งร่างยามปลายลิ้นกวาดวนจนไม่มีร่องรอยของความสุขสมหลงเหลืออยู่
ลืมไปหมดสิ้นในสิ่งที่พูดไว้
ลืมไปหมดแล้วทุกถ้อยคำที่พยายามผลักไสเขาให้ออกห่าง
ในตอนนี้สมองไม่รับรู้สิ่งใด เขารู้เพียงแต่ว่า ต้องการ... ต้องการโฮซอก
เจ้าของใบหน้าหล่อเคลื่อนกายขึ้นป้อนจูบร้อนแรงให้อีกครั้ง ขบเม้ม กัดกระชากจนกลีบปากบางบวมเห่อ หากแต่มินฮยอกไม่ได้สนใจความเจ็บแสบ ยิ่งโฮซอกบดขยี้กลีบปากเขามากแค่ไหน เขาก็ยิ่งต้องการสัมผัสจากโฮซอกมากเท่านั้น
“เรามาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับแล้ว”
“อื้อ!” มินฮยอกมุ่นคิ้วยุ่ง ส่งเสียงไม่พอใจออกไปเมื่อโฮซอกผละใบหน้าออก พยายามรั้งต้นคอแกร่งลงมาหาอีกครั้งแต่โฮซอกก็ยั้งร่างกายของตนเองเอาไว้ได้ก่อน
“ถ้าคุณบอกให้ผมหยุดผมจะไม่หยุด และถ้าคุณบอกให้ถอยห่างผมจะยิ่งเข้าใกล้”
“...”
“คุณเป็นของผม และผมก็เป็นของคุณ”
ดวงตาสอดประสานกันในระยะประชิด แล้วจึงกดจูบลงบนหน้าผากเนียน ปลายจมูกโด่งรั้น เลื่อนต่ำผ่านริมฝีปากมายังปลายคาง และฝังใบหน้าลงคลุกเคล้ากับรอบลำคอหอมกรุ่น ขบเม้ม ดูดดึงผิวกายจนร้อนวูบราวกับถูกเหล็กร้อนนาบกับเนื้ออ่อน และจึงวกกลับมาป้อนจูบหอมหวานให้อีกครั้ง รสจูบของโฮซอกนั้นยังคงวาบหวามและชวนให้ใจสั่นไหวอยู่เสมอตั้งแต่คราแรกที่พบกันจนถึงตอนนี้ แต่ถ้าจะมีอะไรที่ไม่เหมือนเดิม ก็คงเป็นตอนนี้ตอนที่มีสิ่งแปลกปลอมชำแรกผ่านเข้ามาในร่างกาย
“อ๊ะ!” ร่างบางดิ้นพราด สะดุ้งสุดตัวอย่างตกใจ หลีกหนีสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยจากใจกลางร่างตามสัญชาตญาณ โฮซอกจึงใช้ร่างกายที่เป็นต่อกว่าพันธนาการร่างใต้อาณัตินี้ไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นหนี
“จะ...เจ็บ คุณโฮซอก ผมเจ็บ”
“แค่พักเดียวเท่านั้น มองตาผม”
“อื้อ ฮึก…”
ดวงตาเรียวที่ฉ่ำวาวราวกับดวงดาวยามราตรีปรือขึ้นสบสายตากับคนบนร่างที่บัดนี้นัยน์ตาแปรเปลี่ยนไปจากเดิม เสียงสะอื้นดังเล็ดลอดออกมาเรื่อย ๆ เมื่อนิ้วขยับเข้าออก จนโฮซอกต้องก้มลงจูบริมฝีปากระเรื่อที่สั่นเทาเอาไว้อย่างแนบแน่น ก่อนจะบดคลึงอย่างเร่งเร้าอารมณ์จนอีกฝ่ายเริ่มคล้อยตาม
โฮซอกจึงอาศัยจังหวะถอนนิ้วออกและแทนที่ด้วยความกำยำจากร่างกายของตนเองแทน
“โอ๊ย!” ร่างบางผวาขึ้นกอดรัดลำคอแกร่งแน่นเมื่อความจุกเสียดที่มากเกินกว่าเมื่อครู่นี้แทรกผ่านเข้ามาในร่าง
“ชู่ว...” โฮซอกเอ่ยปลอบประโลมข้างใบหูที่แดงจัด พลางขยับสะโพกเข้าออกอย่างเอาแต่ใจ
“อื้อออ อ๊ะ!”
ร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงกระทำ ร่างทั้งร่างร้อนรุ่มจนแทบมอดไหม้เป็นจุณกับความร้อนแรงที่โฮซอกสร้างขึ้น สัญชาตญาณที่ซ่อนเร้นมานานได้ถูกปลดปล่อยออกเป็นครั้งแรก เสียงร้องครางผสานกับเสียงหอบหายใจยิ่งจุดชนวนเปลวเพลิงแห่งไฟปรารถนาได้เป็นอย่างดี
ห้วงแห่งอารมณ์ของคู่ชีวิตทั้งสองนำพาสติลอยเคว้งอยู่ท่ามกลางอากาศที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นฟีโรโมนผสมกันอยู่จนรับรู้ถึงกลิ่นที่แปลกใหม่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
หากแต่โฮซอกยังคงจำกลิ่นนี้ได้ดี...
เขายังคงจำได้ในความทรงจำที่ยังไม่เลือนหายไปไหน ทุกอย่างยังคงตราตรึงอยู่ก้นบึ้งของหัวใจ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาแทนที่ได้... ถ้าไม่ใช่มินฮยอก
โฮซอกช้อนแผ่นหลังบางขึ้นจากเตียงโดยที่ร่างกายยังคงเชื่อมติดกันอยู่ ขาเรียวเกี่ยวกระหวัด โอบรัดแน่นรอบเอวสอบ สองร่างตระกองกอดกันแน่นจนไม่มีอากาศรอดผ่าน ผิวเนื้อเสียดสีจนร้อนรุ่มไปทุกอณูของร่างกาย
“พี่วอนโฮ”
“...”
“พะ พี่”
โฮซอกชะงักค้างราวกับถูกต้องมนตร์ หัวใจสั่นไหวจนแทบสิ้นสติ โฮซอกจ้องมองใบหน้าสวยที่แดงระเรื่อจากพายุอารมณ์ด้วยความรู้สึกที่หลากหลายประเดประดังเข้ามา
การรอคอยของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว
“อื้ออ” ปลายเล็บกรีดลงกับแผ่นหลังกว้างเป็นทางยาว เมื่อสัมผัสหนักหน่วงมากกว่าเดิม จุกเสียดจนน้ำตาซึมหากแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีมากแค่ไหน
ร่างหนาเร่งเร้าจังหวะรักอย่างเอาแต่ใจเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางที่วาดฝันไว้ จวบจนแรงกระตุกเกร็งขนาดตัวตนที่ใหญ่ขึ้นจนล็อกเข้าพอดีกับภายในช่องทางสีหวาน
เปลวเพลิงได้มอดไหม้และสิ้นสุดลง ร่างสองร่างยังกอดรัดกันแน่น ไม่ผละกายออกห่างไปไหน
มันคือการน็อท...
ฝ่ามือหนาลูบผ่านหน้าอกต่ำลงมาจนถึงช่วงเอว แล้วจึงค่อย ๆ สอดมือเข้าไปลูบไล้ผิวขาวเนียนใต้สาบเสื้อโดยที่ริมฝีปากยังคงบดเบียดสู้กันอยู่ไม่ห่าง หน้าท้องหดเกร็งเมื่อสัมผัสถึงอุณหภูมิที่ต่างออกไปตรงช่วงหน้าท้อง และเคลื่อนสูงขึ้นจนเกือบถึงอก ฝ่ามือหนาลูบคลำ เคล้นคลึงไปทั่วทุกส่วน ไม่ว่าจะเป็นหน้าท้องแบนราบหรือช่วงเอว
โฮซอกเคลื่อนใบหน้าลงมากดจูบลงตามผิวขาวเนียนที่โผล่พ้นออกมาจากการปลดกระดุมออกทีละเม็ด โฮซอกไล่ต่ำเป็นระยะตั้งแต่หน้าอกลงมาเรื่อย ๆ ทุกการกระทำเป็นไปอย่างไม่เร่งรีบ เพราะไม่ว่ายังไง… ค่ำคืนนี้มินฮยอกก็ไม่รอดไปจากเขา
เสื้อเชิ้ตสีขาวตัวบางหลุดออกไปจากร่างกายบอบบางเป็นอย่างแรก และตามด้วยเสื้อเชิ้ตของเขาซึ่งได้รับการช่วยเหลือมาจากคนที่นอนบิดเร่าอยู่ใต้ร่างอีกที จึงเผยให้เห็นร่างกำยำที่มากไปด้วยกล้ามเนื้อทุกสัดส่วน
นัยน์ตาฉ่ำวาวปรือขึ้นมองร่างหนา พลางลูบไล้ไปทั่วแผงอกแกร่งก่อนจะเผลอจิกปลายเล็บลงเข้าอย่างแรงเมื่อโฮซอกไล้ปลายลิ้นลงเชยชิมร่างกายของเขา
กลิ่นหอมหวานของลูกพีชจากร่างบางยิ่งยากจะหักห้ามไม่ให้ลงสัมผัสหนักหน่วง โฮซอกตักตวงความหอมหวานอย่างไม่รู้จักจบสิ้น ฟาดฟันกันด้วยปลายลิ้นอย่างไม่มีใครยอมใคร
“อื้อ”
เสียงครางอื้ออึงดังขึ้นเมื่อถูกรุกรานบริเวณยอดอก ถูกดูดดุน สลับขมเม้มอย่างหนักตามความปรารถนาที่พุ่งทะยาน จนเผลอถลากายขึ้นเข้าหาสัมผัส สองมือที่เคยจิกลงกับฟูกที่นอนแปรเปลี่ยนมาขยุ้มกลุ่มผมสีเข้มของโฮซอกแทนเพื่อระบายความซ่านเสียวที่กำลังก่อตัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่
เสียงครางหอบดังออกมาเรื่อย ๆ ยามร่างกายถูกความช่ำชองของโฮซอกเล่นงาน
ริมฝีปากร้อนนาบลงกับต้นคอขาว เจ้าของใบหน้าสวยเปิดรับสัมผัสอย่างเต็มใจ และต้องร้องครางออกมาอีกครั้งเมื่อโฮซอกขบเม้มจนเกิดร่องรอยรักสีกุหลาบ
ฟีโรโมนของโอเมก้าคือสิ่งที่ปลุกปั้นสัญชาติญาณดิบของอัลฟ่าให้เดือดพล่าน เฉกเช่นเดียวกับฟีโรโมนของอัลฟ่าที่ปั่นป่วนโอเมก้าจนสติแตกกระเจิง
โฮซอกยืดกายขึ้นมองดูผลงานของตัวเองอย่างพึงพอใจ แล้วจัดการปลดเปลื้องปราการด่านสุดท้ายออกจากขาเรียว โฮซอกจับขาเรียวยกขึ้นแล้วฝังใบหน้าลงจูบจนอีกคนร้องครางระงม
“อ๊า”
ร่างบางบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน ปลายนิ้วจิกลงกับลาดไหล่หนาอย่างต้องการระบายความรู้สึกที่ก่อตัวขึ้นอย่างห้ามไม่อยู่ และในที่สุดร่างกายของมินฮยอกก็ราวกับถูกผลักลงมาจากหน้าผาอันสูงชัน ร่างกายกระตุกเกร็งพร้อมปลดปล่อยความอัดอั้นออกมาจนหมด มินฮยอกครางหอบ อ่อนระทวยไปทั้งร่างยามปลายลิ้นกวาดวนจนไม่มีร่องรอยของความสุขสมหลงเหลืออยู่
ลืมไปหมดสิ้นในสิ่งที่พูดไว้
ลืมไปหมดแล้วทุกถ้อยคำที่พยายามผลักไสเขาให้ออกห่าง
ในตอนนี้สมองไม่รับรู้สิ่งใด เขารู้เพียงแต่ว่า ต้องการ... ต้องการโฮซอก
เจ้าของใบหน้าหล่อเคลื่อนกายขึ้นป้อนจูบร้อนแรงให้อีกครั้ง ขบเม้ม กัดกระชากจนกลีบปากบางบวมเห่อ หากแต่มินฮยอกไม่ได้สนใจความเจ็บแสบ ยิ่งโฮซอกบดขยี้กลีบปากเขามากแค่ไหน เขาก็ยิ่งต้องการสัมผัสจากโฮซอกมากเท่านั้น
“เรามาไกลเกินกว่าจะถอยหลังกลับแล้ว”
“อื้อ!” มินฮยอกมุ่นคิ้วยุ่ง ส่งเสียงไม่พอใจออกไปเมื่อโฮซอกผละใบหน้าออก พยายามรั้งต้นคอแกร่งลงมาหาอีกครั้งแต่โฮซอกก็ยั้งร่างกายของตนเองเอาไว้ได้ก่อน
“ถ้าคุณบอกให้ผมหยุดผมจะไม่หยุด และถ้าคุณบอกให้ถอยห่างผมจะยิ่งเข้าใกล้”
“...”
“คุณเป็นของผม และผมก็เป็นของคุณ”
ดวงตาสอดประสานกันในระยะประชิด แล้วจึงกดจูบลงบนหน้าผากเนียน ปลายจมูกโด่งรั้น เลื่อนต่ำผ่านริมฝีปากมายังปลายคาง และฝังใบหน้าลงคลุกเคล้ากับรอบลำคอหอมกรุ่น ขบเม้ม ดูดดึงผิวกายจนร้อนวูบราวกับถูกเหล็กร้อนนาบกับเนื้ออ่อน และจึงวกกลับมาป้อนจูบหอมหวานให้อีกครั้ง รสจูบของโฮซอกนั้นยังคงวาบหวามและชวนให้ใจสั่นไหวอยู่เสมอตั้งแต่คราแรกที่พบกันจนถึงตอนนี้ แต่ถ้าจะมีอะไรที่ไม่เหมือนเดิม ก็คงเป็นตอนนี้ตอนที่มีสิ่งแปลกปลอมชำแรกผ่านเข้ามาในร่างกาย
“อ๊ะ!” ร่างบางดิ้นพราด สะดุ้งสุดตัวอย่างตกใจ หลีกหนีสัมผัสที่ไม่คุ้นเคยจากใจกลางร่างตามสัญชาตญาณ โฮซอกจึงใช้ร่างกายที่เป็นต่อกว่าพันธนาการร่างใต้อาณัตินี้ไว้เพื่อไม่ให้ดิ้นหนี
“จะ...เจ็บ คุณโฮซอก ผมเจ็บ”
“แค่พักเดียวเท่านั้น มองตาผม”
“อื้อ ฮึก…”
ดวงตาเรียวที่ฉ่ำวาวราวกับดวงดาวยามราตรีปรือขึ้นสบสายตากับคนบนร่างที่บัดนี้นัยน์ตาแปรเปลี่ยนไปจากเดิม เสียงสะอื้นดังเล็ดลอดออกมาเรื่อย ๆ เมื่อนิ้วขยับเข้าออก จนโฮซอกต้องก้มลงจูบริมฝีปากระเรื่อที่สั่นเทาเอาไว้อย่างแนบแน่น ก่อนจะบดคลึงอย่างเร่งเร้าอารมณ์จนอีกฝ่ายเริ่มคล้อยตาม
โฮซอกจึงอาศัยจังหวะถอนนิ้วออกและแทนที่ด้วยความกำยำจากร่างกายของตนเองแทน
“โอ๊ย!” ร่างบางผวาขึ้นกอดรัดลำคอแกร่งแน่นเมื่อความจุกเสียดที่มากเกินกว่าเมื่อครู่นี้แทรกผ่านเข้ามาในร่าง
“ชู่ว...” โฮซอกเอ่ยปลอบประโลมข้างใบหูที่แดงจัด พลางขยับสะโพกเข้าออกอย่างเอาแต่ใจ
“อื้อออ อ๊ะ!”
ร่างบางสั่นคลอนไปตามแรงกระทำ ร่างทั้งร่างร้อนรุ่มจนแทบมอดไหม้เป็นจุณกับความร้อนแรงที่โฮซอกสร้างขึ้น สัญชาตญาณที่ซ่อนเร้นมานานได้ถูกปลดปล่อยออกเป็นครั้งแรก เสียงร้องครางผสานกับเสียงหอบหายใจยิ่งจุดชนวนเปลวเพลิงแห่งไฟปรารถนาได้เป็นอย่างดี
ห้วงแห่งอารมณ์ของคู่ชีวิตทั้งสองนำพาสติลอยเคว้งอยู่ท่ามกลางอากาศที่ฟุ้งไปด้วยกลิ่นฟีโรโมนผสมกันอยู่จนรับรู้ถึงกลิ่นที่แปลกใหม่อย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
หากแต่โฮซอกยังคงจำกลิ่นนี้ได้ดี...
เขายังคงจำได้ในความทรงจำที่ยังไม่เลือนหายไปไหน ทุกอย่างยังคงตราตรึงอยู่ก้นบึ้งของหัวใจ ไม่ว่าใครก็ไม่สามารถมาแทนที่ได้... ถ้าไม่ใช่มินฮยอก
โฮซอกช้อนแผ่นหลังบางขึ้นจากเตียงโดยที่ร่างกายยังคงเชื่อมติดกันอยู่ ขาเรียวเกี่ยวกระหวัด โอบรัดแน่นรอบเอวสอบ สองร่างตระกองกอดกันแน่นจนไม่มีอากาศรอดผ่าน ผิวเนื้อเสียดสีจนร้อนรุ่มไปทุกอณูของร่างกาย
“พี่วอนโฮ”
“...”
“พะ พี่”
โฮซอกชะงักค้างราวกับถูกต้องมนตร์ หัวใจสั่นไหวจนแทบสิ้นสติ โฮซอกจ้องมองใบหน้าสวยที่แดงระเรื่อจากพายุอารมณ์ด้วยความรู้สึกที่หลากหลายประเดประดังเข้ามา
การรอคอยของเขาได้สิ้นสุดลงแล้ว
“อื้ออ” ปลายเล็บกรีดลงกับแผ่นหลังกว้างเป็นทางยาว เมื่อสัมผัสหนักหน่วงมากกว่าเดิม จุกเสียดจนน้ำตาซึมหากแต่ปฏิเสธไม่ได้ว่ารู้สึกดีมากแค่ไหน
ร่างหนาเร่งเร้าจังหวะรักอย่างเอาแต่ใจเพื่อให้ถึงจุดหมายปลายทางที่วาดฝันไว้ จวบจนแรงกระตุกเกร็งขนาดตัวตนที่ใหญ่ขึ้นจนล็อกเข้าพอดีกับภายในช่องทางสีหวาน
เปลวเพลิงได้มอดไหม้และสิ้นสุดลง ร่างสองร่างยังกอดรัดกันแน่น ไม่ผละกายออกห่างไปไหน
มันคือการน็อท...
/////////
ยากเนาะ ncเนี่ย ยากเนาะฟหกฟดด้ก่าส
ยากเนาะ ncเนี่ย ยากเนาะฟหกฟดด้ก่าส